ลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบ
ปรับขนาดตัวอักษร
ภาษา
ภาพกิจกรรม/โครงการเด่น
นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วยคณะนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดยะลา เข้าพบ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พูดคุยการป้องกันอุทกภัยจังหวัดยะลาอย่างเป็นระบบ รวมถึงผลักดันส่งเสริมอาชีพและรายได้ในพื้นที่เกษตรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดยะลา

         วันนี้ (6 ก.พ. 68) นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชมน์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วยคณะนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดยะลา เข้าพบ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสืบเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 วัน ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนในพื้นพื้นที่ จังหวัดยะลาและพื้นที่ข้างเคียง มากกว่า 1,200 มม. ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มน้ำในจังหวัดยะลาต้องรับน้ำที่หลากมาเป็นจำนวนมาก และล้นเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และบ้านเรือนประชาชนบริเวณข้างเคียงทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ลุ่มน้ำในจังหวัดยะลาแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ ลุ่มน้ำฝั่งทิศตะวันตกของเทศบาลนครยะลา คือ แม่น้ำปัตตานี และลุ่มน้ำทางด้านทิศตะวันออกของเทศบาลนครยะลา คือ แม่น้ำสายบุรี ซึ่งแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง เป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมดที่ไหลหลากเข้ามาก่อนออกสู่ทะเล หากลุ่มน้ำทั้ง 2 ฝั่ง มีประสิทธิภาพการระบายน้ำไม่สมบูรณ์จะส่งผลให้ท่วมล้นเข้าสู่พื้นที่เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองสะเตงนอก เทศบาลตำบลท่าสาป เทศบาลตำบลยุโป เทศบาลตำบลบุดี องค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงย องค์การบริหารส่วนตำบลตาเซะ องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาน และองค์การบริหารส่วนตำบลพร่อน โดยลุ่มน้ำทั้ง 2 ฝั่งนี้ ยังไม่ได้มีการศึกษาความเหมาะสมในการป้องกันอุทกภัยอย่างเป็นระบบ ทำให้การบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนที่ผ่านมาไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดอุทกภัยและสร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวน 45,000 ครัวเรือน สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดยะลาเป็นอย่างมาก

      ด้วยเหตุนี้ คณะนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดยะลา จึงเข้าพบท่านเลขาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการศึกษาความเหมาะสม และแนวทางในการป้องกันอุทกภัยอย่างเป็นระบบ ในพื้นที่ลุ่มน้ำทั้ง 2 แห่ง คือแม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรีอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้แก่ประชาชนพื้นที่จังหวัดยะลาในอนาคต รวมถึงพูดคุยถึงการส่งเสริมเรื่องอาชีพและรายได้ในพื้นที่เกษตรของตำบลในจังหวัดยะลา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดยะลาต่อไป