วันนี้ (8 พ.ย. 68) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้พบปะผู้นำศาสนา มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงรับฟังปัญหาความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2567 และความต้องการในพื้นที่ ทันทีที่มาถึงท่านยังได้รับหนังสือจากเครือข่ายพิทักษ์สายน้ำปัตตานีและชาวบ้าน อ.กรงปินัง ซึ่งคัดค้านการสร้างเขื่อนกรงปินัง โดยยืนยันจะนำไปศึกษาและเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน ก่อนจะกล่าวกับมวลชนและส่วนราชการที่มาให้การต้อนรับกว่า 1,200 คน ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัสได้ชื่นชมความพร้อมของท้องถิ่นในจังหวัดยะลา โดยเฉพาะการนำเสนอการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ โดย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ซึ่งได้เป็นตัวแทนชาวยะลาและ 16 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเสนอแนวทางที่เป็นระบบ โดยครอบคลุมการแก้ไขปัญหาทั้งสองฝั่งของแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่การชะลอน้ำ เพิ่มพื้นที่แก้มลิง ปรับปรุงประสิทธิภาพการไหลของน้ำ การสร้างคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองยะลา ไปจนถึงการทบทวนระบบชลประทานในโครงการส่งน้ำแม่น้ำปัตตานี ท่านจึงได้สั่งตั้ง "คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำในจังหวัดยะลาอย่างเป็นระบบ" เพื่อจัดทำ 'แผนที่น้ำ' พร้อมยืนยันเร่งเสนอของบประมาณฉุกเฉิน 100 ล้านบาท เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนภาคใต้ที่กำลังจะมาถึง หากจำเป็นจะใช้เงินเหลือจ่ายของกรมชลประทานและประสานทหารเข้าดำเนินการขุดลอกทันที
นอกจากปัญหาเรื่องน้ำ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ยังเป็นการบูรณาการงานของ 4 กระทรวงหลัก ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเข้ามาดูแลสวัสดิการครูและโรงเรียนในพื้นที่ รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนา ขณะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลสวัสดิการของกลุ่มเปราะบางทั้งหมด ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอำเภอเบตง เพื่อให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรมและเท่าเทียม